Daddy Dough
คุณปีเตอร์ ทวีผลเจริญ เจ้าของธุรกิจโดนัท Daddy Dough แรกเริ่มก่อนมาทำธุรกิจโดนัทนั้นเคยไปเปิดร้านอาหารที่ต่างประเทศมาก่อน แล้วก็กลับมาทำงานทางด้าน Sales ในบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ระหว่างทางจึงได้สะสมประสบการณ์ทางด้านการทำธุรกิจร้านอาหารและประสบการณ์ด้านการขายมาก่อนที่จะเริ่มเปิดกิจการ
เรื่องของ Daddy Dough เริ่มมาจาก ในช่วงหลายปีก่อน ที่ Roti Boy กำลังดัง คนต่อคิวซื้อกันเพียบ! คุณปีเตอร์กับครอบครัวเลยคิดที่อยากจะขายบ้าง สุดท้ายเลยมาลงที่โดนัท เลยเลือกที่จะทำโดนัทชีสที่ใช้เวลาทำนานกว่าเจ้าอื่นๆที่ขายตามตลาด แต่มีข้อดีตรงที่โนนัสจะพองฟูนุ่มน่ากินกว่า ซึ่งเป็นจุดเด่นของโดนัทเจ้านี้
เส้นทางกว่าที่จะมาเป็น 1 ใน top 5 ของยักษขายโดนัทในไทย และเป็นโดนัทเจ้าเดียวที่ธุรกิจเริ่มโดยคนไทย คุณปีเตอร์ได้เล่าเกร็ดข้อคิดในการทำธุรกิจฝากให้ entrepreneur รุ่นใหม่ๆไว้ดังนั้นครับ
#ธุรกิจอาหาร
ธุรกิจทำอาหารมีเคล็ดไม่ลับอยู่ 3 ข้อ สั้นๆ ง่ายๆ
- รสชาดดี ลูกค้าชอบ
- มีความสม่ำเสมอ อร่อยยังไงก็ให้อร่อยอย่างนั้น ไม่อร่อยอย่างไรก็ให้ไม่อร่อยอย่างนั้น (ลูกค้าไม่ชอบอาหารที่เปลี่ยนรสชาดไปบ่อยๆครับ)
- สะอาด
# เรื่องการทำร้าน
เมื่อครั้งเริ่มแรกจะเปิดร้านใหม่ คุณปีเตอร์ลงเข้าไปดูรายละเอียดว่าวัสดุที่ที่ใช้แต่งร้านที่อันใหนไม่จำเป็นก็ตัดออกหรือเปลี่ยนอันที่ถูกลง เช่นกระเบื้องหรูๆเลือกทำเฉพาะหน้าร้านก็พอ หลังร้านก็ใช้อีกแบบหนึ่งที่ราคาถูกลง
คนเริ่มต้นธุรกิจต้องลงมาดูส่วนปลีกย่อยในการก่อสร้างด้วย เพื่อพยายามลดต้นทุนการสร้างร้าน ส่วนที่สำคัญคือส่วนที่เป็นด่านแรกรับลูกค้า ควรจะทำให้ดูดี ให้ประทับใจ ในส่วนอื่นๆ นอกจากนี้ก็ลดสเปกลงมาหน่อยก็ได้ครับ ไม่ต้องหรูทั้งร้าน
#แบ่งเค้ก
การเพิ่มราคาสินค้าให้สูงขึ้นให้ดูพรีเมียมกว่าเจ้าอื่นๆ ทั้งที่ตัวสินค้าไม่ได้แตกต่างกันกับเจ้าอื่นๆ ร้านค้าที่ขายแบบนี้เตรียมตัวเจ๊ง!
คุณปีเตอร์เล่าว่า มีการทำ Blind test กับลูกค้า ให้กินโดนัทเจ้าต่างๆ ซึ่งลูกค้าก็แยกไม่ออกว่าโดนัทที่กินนี้เป็นของเจ้าใหน หนึ่งในโดนัทที่เอามาทดสอบนั้นเจ้าของเค้าตั้งราคาแพงกว่าชาวบ้านเพื่อหวังว่าจะดูพรีเมียม แต่สุดท้ายก็ไม่มีคนซื้อและเจ๊งไป
จริงๆ เราควรทำตัว Product ให้แตกต่าง หาอะไรมาเติมทำให้ Product เราดูมี value เพิ่มขึ้น คุณปีเตอร์ยกตัวอย่างในเคสของตัวเองเช่น โดนัทของ Daddy dough จะทอดด้วยวิธี Zero trans fat คือ จะช่วยลดโอกาสการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดสำหรับคนที่ชอบทานโดนัทที่กินของทอดบ่อยๆ ก็ทำให้การทานโดนัทนี้ดู Healthy ขี้นครับ
Daddy Dough พยายามขายให้ลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย เช่นกลุ่มวัยคนทำงาน ไปไปแย่งขายในกลุ่มที่ร้านอื่นเค้าขายกัน เช่นกลุ่่มวัยรุ่น จึงมีคำแนะนำว่า "อย่าแข่งขายเค้กก้อนเดียวกัน"
# Niche
พยายามหาตลาดที่เจ้าใหญ่ไม่เข้ามาเล่นกันหรือเข้ามาเล่นยาก อย่าไปยุ่งกับ Red Ocean
ถ้าเปรียบเราเป็นปลาตัวเล็กๆ หาช่องทางที่เราจะว่ายน้ำได้สบายๆ ไม่ต้องไปว่ายแข่งกับปลาตัวใหญ่
#วางแบรนด์และสื่อสารกับคนในทีมให้เข้าใจ
หาโมเดลอะไรที่มันเห็นภาพง่ายๆที่จะสื่อเป็นตัวตนแบรนด์ของเรา จากนั้นเอาไปสื่อสารให้ลูกน้องหรือคนในทีมฟังว่าเราจะเป็นแบบใหนอย่างไร อย่างเช่นของโดนัท daddy dough คุณปีเตอร์เลือกที่จะเอารถ Bettle มาเป็นตัวเปรียบเทียบและเล่าให้พนักงานฟังว่า ทำไมเราถึงจะเป็นรถ Bettle ทำไมเราไม่เป็นรถสปอร์ต ฯ เพราะรถบีเทิล ดู พรีเมียม ดูสีสันสดใส ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่จะขายอย่างไร เรื่องพวกนี้ก็ต้องอธิบายให้พนักงานฟังเพื่อให้เค้าเข้าใจและเดินไปตามทางที่เราวาง Brand ไว้
#เมื่อจะ Go Inter อย่าลืมจดลิขสิทธิ
พยายามจดลิขสิทธ์ไว้ เช่นพวก Logo เพราะอย่างเคสของ Daddy Dough มีคนแอบเอาไปจดลิขสิทธิ logo ที่อเมริกา ซึ่งจะมีปัญหาถ้า daddy dough จะไปเปิดตลาดที่อเมริกาในวันข้างหน้า โชคดีที่คุณปีเตอร์รู้ตัวทันก่อนและรีบทำเรื่องให้ Logo กลับมาเป็นตัวเอง
# Price Test
มีร้านขายโดนัสเจ้าหนึ่งที่เปิดร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับ Daddy dough วันหนึ่งเจ้าของร้านโดนัทนั้นก็ทำโปรโมชั่นลดราคาหั่นกันแบบสุดๆ พนักงานที่ร้านของคุณปีเตอร์ก็รีบโทรมา บอกว่าร้านฝั่งตรงข้ามทำโปรโมชั่นโหดมากนะ ขายโดนัทกล่องละ 99 บาท เราขายแพงกว่าเค้าตั้งเกือบครึ่ง เราต้องลดราคาแข่งกับเค้าบ้างแล้วแหละ
คุณปีเตอร์เลยใช้วิกฤตินี้
บอกพนักงานขายว่าอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร . . .
เพื่อที่จะดูว่า ด้วยโปรโมชั่นที่คุ๋แข่งลดราคาตัดกันเกือบครึ่ง ทำให้ยอดขายของร้านสาขานั้นในเดือนนั้นลดลงเหรือเปล่า
เป็นโอกาสที่จะดูว่า กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเรา เป็นพวก sensitive กับราคารึเปล่า
สรุปเดือนนั้น ยอดขายก็ไม่ได้ตกครับ
กลุ่มลูกค้าของ daddy doug ก็ค่อนข้างจะ royalty สรุปจากเหตุการณ์นี้
#ทำเลและทางเดินของคน
มีเหตการณ์หนึ่งที่คุณปีเตอร์เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องของร้านขายโดนัทคู่แข่ง ดูจากรูปนะครับ มันเป็นทางเดินทางเชื่อน่าจะแนวๆ พวกทางเดินของรถไฟฟ้า BTS ซึ่งมีร้านโดนัทเจ้าหนึ่งเปิดอยู่ฝั่งขวามือของภาพ แต่ไม่รู้ทำไม เวลาคนเดิน ทั้งเดินไป เดินกลับ เค้าจะเดินชิดริมด้านซ้ายกัน พวกร้านด้านขวามือก็เลยจะขายของกันไม่ค่อยได้
ก่อนเปิดร้าน ไปดูทำเล ก็ดูกระแสทางเดินของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นด้วยนะ
สุดท้ายแล้ว ของฝากเป็นข้อคิดไว้ #ความคิดของผู้ประกอบการณ์ จากคุณปีเตอร์ครับ
- connect the dots : ถ้าเรามีโอกาสเรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้ทำซะ แล้ววันหนึ่งสิ่งที่เรียนรู้นั้นมันจะได้ใช้ในวันข้างหน้า
- ท้อได้นะ แต่อย่ายอมแพ้
- Fire is in You : หาที่ที่ตัวเองอยู่แล้วสบายใจไว้ด้วย เวลาเจอปัญหา จะได้กลับไปชาร์ตพลัง จุดไฟในตัวเราใหม่ขึ้นอีกครั้ง
- โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมหรอก : อันนี้เป็นคำพูดของ Bill Gate หมายถึงว่า อย่าคิดมากกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น
------------ (END) ------------
อ่านต่อ Part 3 สุดท้ายแล้วครับ
0 Comment:
แสดงความคิดเห็น