19 ธันวาคม 2556

NEC-CU #9.2 Business model canvas

06:59 Posted by attaphon singhakiree No comments
จากธุรกิจที่ล้มเหลวของ Mike ในบทที่แล้ว (กลับไปอ่านตอนที่1) เรามาดูข้อผิดพลาดของ Mike ข้อที่ 2 กันต่อ ซึ่งข้อนี้ก็สำคัญมากๆด้วย
2) คิดวิธีหาเงินจากธุรกิจไม่ได้
(It’s the business model , stupid .)


ของมันดี แต่ไม่มีตังมาเลี้ยงตัวเอง สุดท้ายก็ตาย…

จริงอยู่ที่ Mike ได้เขียน Bussiness plan มาเป็นอย่างดี แต่นั้น มันเป็นแผนในการตั้งบริษัท แต่ไม่ได้รวมถึง business model ที่จะหาเงินจากธุรกิจนี้ด้วยรึเปล่า ? ธุรกิจดีๆหลายตัวแต่ไม่มีรายได้ มันไปต่อไม่ได้เพราะไม่มีเงินมาเติมวงจรชีวิต

ผมอยากยกตัวอย่างธุรกิจดีๆที่เห็นกันอยู่ เจ้าผลิตภันท์นี้ในตอนแรกไม่มี model ว่าจะคิดหาเงินเข้ามาเติมวงจรชีวิตได้ยังไง  พวกเราน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วครับ…

เรื่องของ Twitter

Twitter คือ social media ตัวหนึ่งที่ใช้กันแพร่หลาย ส่วนใหญ่จะไว้อ่านข่าว เพราะ concept เดิมๆของมันคือ post ข้อความได้ไม่เกิน 180 ตัวอักษร เขาก็เลยเอาไว้โพสส่งข่าวกันสั้นๆ ก่อนที่ภายหลังจะพัฒนาให้ส่งรูปได้เพิ่ม

Twitter เป็น tools ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันได้ดี ผู้คนแห่กันใช้งานเยอะและเป็นที่นิยมในหลายประเทศ มันดังและมีคนใช้เยอะมากๆ แต่ติดตรงที่่ว่าผู้สร้างยังคิดหาเงินจาก Twitter ไม่ได้เลย user ก็ใช้ฟรีๆไปเรื่อยๆ  แต่ปัจจุบันบริษัทเริ่มหา business model หาเงินได้แล้ว  ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการให้ Brand ต่างๆ ใช้ Twitter ในการทำประชาสัมพันธ์  โดยเพิ่มโฆษณาแทรกเข้ามาใน timeline ของ user

กลับมาเรื่องของเรากันต่อ ที่เราเกริ่นเริ่มหาเงินวงจรชีวิตธุรกิจก็เพื่อที่จะเปิดตัว Tools ตัวหลัก ที่จะช่วยเราสร้าง business model ให้ธุรกิจ และเห็นภาพจนวิเคราะห์ได้ถึงวิธีหาเงินจากธุรกิจเรา  เครื่องมือตัวนี้เรียกว่า Business model canvas ซึ่งจะจำแนกส่วนประกอบของธุรกิจออกเป็น 9 ส่วน ดังนี้

#THE CANVAS

image

มาดูส่วนประกอบแรกกัน : Customer segment

image
Customer segment : เริ่มจากมาดูกันก่อนว่า เรากำลังจะส่งสินค้าและบริการให้กับใคร ลูกค้าของเราเป็นใคร เขียนบรรยายสรรพคุณของลูกค้าออกมาให้ชัดเจน เช่น เป็น ผู้หญิง ช่วงอายุ 22 - 28 ปี ชอบทานของหวาน รายได้ 15000 - 20000 ต่อเดือน ฯลฯ ซึ่งเราจะแบ่งลูกค้าเป็นหลายกลุ่มก็ได้ เขียนบรรยายลูกค้าแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน มีข้อแนะนำคือ พยายามมองในมุมของลูกค้าว่า เป็นกลุ่มที่ต้องการสินค้าและบริการของเราจริงๆ ตอบโจทย์ชีวิตและแก้ปัญหาให้เขาได้จริงๆ ลูกค้าคนนี้เค้าเป็นใคร ควรมีลักษณะอย่างไรบ้าง อะไรที่เขาต้องการกันแน่ ?
………………………….

ส่วประกอบที่สอง : Value propositions

image
Value propositions : เรากำลังจะส่งมอบอะไรให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ เป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้รึเปล่า เป็นสิ่งที่ลูกค้าเขาสนใจไหม
เป้าหมายของ product คือ แก้ปัญหาให้ลูกค้าคือทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้นกว่าเดิมกว่าเมื่อวาน หรือไม่ก็เป็นการ สนอง need ทำให้ลูกค้าพอใจ ( gain and Pain)
สรุปเน้นๆของส่วนประกอบนี้ ให้ตอบ 3 คำถามนี้
  • Product : เรามี product หรือ service อะไรให้บริการลูกค้า ? 
  • Gain : Product เราสร้าง value อะไรให้ลูกค้าใหม่ ? (Gain คือ customer solution )
  • Pain : Product เราฆ่า Pain อะไรให้กับลูกค้า ? (Pain คือปัญหาของลูกค้า customer problem หรือเป็น need ก็ได้ )
…………………………

ส่วนประกอบของ CANVAS ที่เหลือ ตามไปอ่านตอนต่อไป Part#3 ต่อนะครับ

0 Comment:

แสดงความคิดเห็น