21 มิถุนายน 2557

Jeff Bezos กับอานาจักร Amazon (1)

20:26 Posted by attaphon singhakiree No comments
ปัจจุบันการซื้อของออนไลน์ผ่านเวปต่างๆเริ่มนิยมกันมากขึ้น  อาจจะเป็นเพราะหลายๆคนเริ่มเชื่อมั่นในตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยทำให้การซื้อของออนไลน์นั้นปลอดภัยกว่าแต่ครั้งแต่ก่อน พร้อมกับความสะดวกที่ไม่ต้องหิ้วตัวเองเดินทางไปถึงหน้าร้าน แถมว่าเดี๋ยวนี้อยากซื้ออะไรอยากได้อะไร เราสามารถหาซื้อได้เกือบทั้งหมดในอินเตอร์เน็ต และถ้าให้เราลองคิดถึงชื่อเวปชื่อบริษัทที่ทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่หลายๆเจ้า หนึ่งในรายชื่อนั้นต้องมี ชื่อของ Amazon.com แน่นอน

ผมก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของ Amazon,com เพราะหลงกลเข้าไปซื้อหนังสือ Ebook จากเวปนี้อยู่บ่อยๆ Amazon.com ทำให้ผมรู้สึกว่า การซื้อของออนไลน์นี่มันง่ายจนตกใจว่าแบบ งงๆ ว่า เฮ้ย นี่เรากดซื้อไปแล้วเหรอ (One - click)  ประกอบกับว่าผมได้่อ่านหนังสือดีๆ เล่มหนึ่ง ที่เขียนเกี่ยวกับธุรกิจขายรองเท้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอเมริกา Zappos.com ซึ่งบริษัทนี้มีจุดแข็งในเรื่องของวัฒนธรรมองค์กร เรื่องราวของ Zappos น่าสนใจมาก แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ การที่ Zappos ได้ถูก Amazon ควบรวมกิจการ นั่นยิ่งทำให้ความอยากรู้เรื่องราวของ Amazon มากขึ้น

และที่สำคัญ เคยได้ยินมาหลายครั้งแล้วว่า CEO คนนี้ของ Amazon นี่เก่งมากในเรื่องของ Bussiness Model Innovation มีคนเทียบความเก่งนี่ บอกว่าพอๆกับ Steve Jobs ของ Apple บริษัทที่เด่นในเรื่อง Product Innovation ( Apple เด่นเรื่อง Product เมื่อตอน Jobs ยังอยู่บนโลกใบนี้นะ ) เลยพยายามไปขุดประวัติและแผนการทำธุรกิจของ CEO คนนี้มาให้อ่าน

เรามารู้จัก Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon.com กันครับ


======== (เริ่มต้นการเดินทางของ Amazon.com) ========

jeff bezos

Jeff Bezos ผู้เป็นเจ้าของอานาจักร Amazon.com คนนี้  เมื่อครั้งในสมัยที่เรียนอยู่ เขาจบทางด้านวิศวกรรม Computer engineering and electronic จากมหาวิทยาลัย Princeton university เขาเริ่มต้นอาชีพการทำงานด้วยทิ้งงานดีๆในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่อยู่สายวิชาชีพที่ได้เรียนมา และหันไปทำงานในด้านงานสายการเงินแทน ด้วยความขยันและเอาใจใส่งานทำให้ Jeff เติบโตในสายงานที่ทำอย่างรวดเร็ว และได้รับตำแหน่งรองผู้จัดการอาวุโสที่หนุ่มที่สุดในบริษัทหลักทรัพย์ที่ชื่อว่า D.E.Shaw & Co

การทำงานที่บริษัท D.E.Shaw & Co ในช่วงหนึ่ง Jeff ได้รับมอบหมายให้ดูแลโปรเจ็คหนึ่งของบริษัท นั่นคือ การมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆบนอินเตอร์เน็ตให้กับบริษัท Jeff เริ่มต้นศึกษาและค้นพบว่า อัตราการโตของธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตในขณะนั้นเพิ่มขั้นปีละ 2300% มันน่าสนใจมากๆ และทำให้เขาเลยลงรายละเอียดลึกไปอีกว่า ควรจะเข้าไปลงทุนในกิจการใด

Jeff ได้คัดเลือก 5 สายธุรกิจที่น่าสนใจ คือ เพลง ซอฟแวร์ คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน และ หนังสือ
 
เมื่อ Jeff พิจารณาอย่างถี่ถ้วน เขาคิดว่า ในอุตสาหกรรม เพลง จะมียักษ์ใหญ่เจ้าของค่ายที่เป็นคนที่คอยคุมตลาดอยู่แล้ว ถ้าเขาก้าวเข้าไปเล่นตลาดนี้ก็คงไม่สามารถเป็นเบอร์หนึ่งได้ เหลือเพียงแต่อุตสาหกรรมหนังสือ ที่ยังไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าได้อย่างแท้จริง Bezos จึงนำข้อมูลสรุปที่ได้ ไปนำเสนอต่อผู้บริหารของ D.E.Shaw & Co แต่บอร์ดของบริษัทไม่เห็นด้วยที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมหนังสือ โปรเจ็คนี้จึงต้องปิดตัวลง

Jeff เห็นโอกาสสำคัญนี้ แต่เมื่อมันไปต่อไม่ได้ เขามานั่งทบทวนว่า หากไม่เริ่มต้นทำในวันนี้ ในอีก 80 ปีข้างหน้า เขาจะมานั่งเสียใจที่ไม่ได้มาทำมันรึเปล่า…

ในที่สุด Jeff Bezos ก็ตัดสินใจลาออกมาพร้อมกับไอเดียโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่งค้นพบ

เขาย้ายมาเริ่มต้นตั้งบริษัทในเมือง Seattle ด้วยทุนตัวเอง โดยร่วมมือกับ coworker อีกสองคนที่เป็นโปรแกรมเมอร์ ที่ Jeff เลือกที่นี่เพราะหายอดฝีมือในการเขียนโปรแกรมได้ง่ายและสถานที่อยู่ใกล้ผู้ส่งหนังสือรายใหญ่เจ้าหนึ่ง ทำให้เป็นผลดีในเรื่อง logistic การส่งสินค้าให้กับลูกค้า

บริษัทที่เขาตั้งในตอนแรกชื่อว่า Cabana แต่ต่อมาภายหลัง Jeff ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เขาต้องการชื่อสื่อถึงเวปที่ขายทุกสิ่งทุกอย่างตามคอนเซ็ป everything store เขาจึงนั่งหยิบ dictionary มาเปิดไล่ดูคำศัพท์ และพบกับคำว่า Amazon ซึ้งถ้าเราสังเกต logo ของ Amazon ดีๆ จะพบว่า ระหว่างตัว a จะมีลูกศรลากแลัวชี้ไปที่ตัว z ของคำว่า Amazon

นั่นหมายความถึง เราขายทุกอย่างที่มีชื่อตั้งแต่พยัญชนะ ตัวแรก ถึงตัวสุดท้าย...

======== ( ขยายอานาจักร Amazon ) ========

อานาจักรของ Amazon หลังจากตั้งบริษัทได้อย่างมั่นคงแล้ว Jeff ก็ได้ประกาศแนวทางการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในปี 1996 Amazon.com เพิ่มการขยายตัวของธุรกิจโดยการจ้างสุดยอดฝีมือมาเป็นผู้จัดการระดับกลางและระดับสูง พร้อมทั้งทุ่มทุนในการโปรโมตโฆษณาแบรนด์ของตัวเอง โดยใช้เงินรวมทั้งสิ้น 8 ล้านดอลลาสหรัฐ ต่อมาในปี 2007 Jeff Bezos ได้นำพา Amazon เข้าตลาดหุ้นครั้งแรก เพื่อขยาย อานาจักรไปยังต่างประเทศ Amazon ได้ซื้อกิจการร้านหนังสือออนไลน์ในอังกฤษ ที่ชื่อว่า Bookpages และ Telebuch ในเยอรมนี แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น amazon.co.uk และ amazon.co.de

หลังจากนั้น ในช่วงปี 2000 Amazon เริ่มขยายอานาจักรไปสินค้านอกเหนือจากหนังสือ โดยการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ เช่น เข้าไปถือหุ้น drugstore.com 46% เข้าไปถือหุ้น pet.com 50% พร้อมทั่งเข้าซื้อกิจการของบริษัทอีกหลายบริษัท เช่น musicfind , alex internet co. ฯ สินค้าของ Amazon.com ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย รวมไปถึง software และเกม ซึ่ง Amazon ก็มีขายด้วย

amazon-co-jp

ในช่วงปี 2000 Amazon รุกตลาดต่างประเทศอย่างหนัก โดยการไปเปิด Amazon.co.jp เวปขายหนังสือทุกประเภทในญี่ปุ่น เปิด Amazon.fr ในฝรั่งเศส พร้อมทั้งร่วมลงทุนกับบริษัท BabiesRUS และ ToysRUS ซึีงเป็นบริษัทขายของเล่นเด็ก และร่วมมือกับ Office depot ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ในสำนักงานรายใหญ่ในสหรัฐ

Amazon ได้เพิ่มหมวกของสินค้าเข้าไปในเวปเรื่อยๆ ได้แก่ หมวดเครื่องครัว อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ เกม และอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกต่างๆ ยาและเครื่องสำอาง เครื่องแต่งกายะเครื่องประดับ บริการด้านท่องเที่ยว สินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งเรียกได้ว่าจะครบครอบจักรวาล จะซื้อจะหาอะไร ก็มาดูแค่เวปเดียว จบ

และดีลที่สำคัญใน timeline ที่ทำให้ผมอยากเข้ามาค้นหาเรื่องราวของ Amazon คือ ดีล ระหว่าง zappos.com ซึ่งขายรองเท้าออนไลน์ ในมูลค่า 500 ล้านดอร์ลล่า Zappos มีเรื่องราวของ ไว้มีโอกาสจะเขียนเป็นตอนแยกให้อ่านอีกครั้ง และในบทความตอนต่อไปเราจะมาดูกลยุทธการทำธุรกิจของ Amazon กันนะครับว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

โปรดติดตามบทหน้า

0 Comment:

แสดงความคิดเห็น